เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๕ ธ.ค. ๒๕๖๒

เทศน์เช้า วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๒

พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต


ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี


ตั้งใจฟังธรรมะนะ วันนี้วันสำคัญของชาติ วันนี้เป็นวันเกิดของในหลวงรัชกาลที่ ๙ เป็นวันชาติ วันนี้เราระลึกถึงใช่ไหม วันนี้วันสำคัญ วันนี้วันสำคัญของชาติ เราเกิดในชาตินี้ไง คนที่จะทำบุญกุศล เพราะเราระลึกถึงบุญคุณของท่าน เวลาเราระลึกถึงบุญคุณของท่าน คนเรามีกตัญญูกตเวที

เวลาอพยพนะ เวลาอพยพไป คนจีนอพยพเขามาคุยกัน ขึ้นที่เมืองไทย ขึ้นที่อินโดนีเซีย ขึ้นที่ฟิลิปปินส์ ขึ้นที่มาเลเซีย เขาบอกว่า แหม! เสียดายไม่ได้ขึ้นเมืองไทย ไม่ได้ขึ้นเมืองไทย

คนที่มาขึ้นเมืองไทยคือคนที่มีอำนาจวาสนา มีอำนาจวาสนาเพราะอะไร เพราะขึ้นเมืองไทยมันมีสิทธิเสรีภาพ มันมีโอกาสทำมาหากิน มันมีโอกาสทั้งสิ้น เห็นไหม

แต่เราเกิดที่นี่ ถ้าเราเกิดที่นี่ เราเกิดที่นี่ เกิดในประเทศอันสมควร ถ้าเกิดในประเทศอันสมควร คนเกิดที่ไหนก็แล้วแต่ เขาได้เชื้อชาตินั้น เวลาเชื้อชาตินั้น เวลาเชื้อชาตินั้นถ้าผู้นำที่ไม่ดี เวลาผู้นำที่ไม่ดี มีระบบเศรษฐกิจ เขาอพยพๆ

ดูอพยพกันสิ ที่เขาอพยพกันเพราะว่าเขามีความทุกข์ความยาก เขาขัดสน เขาขาดแคลนของเขา เราเกิดมา เราเกิดในประเทศอันสมควร ในประเทศอันสมบูรณ์ เรามีผู้นำที่ดี แล้วผู้นำที่ดีทำให้ชาติสงบร่มเย็นไง ถ้าชาติสงบร่มเย็น คนมีโอกาสทำมาหากิน มีความสุข ความสุขของเรา ความสุขมันมาจากไหน ความสุขมาจากผู้นำที่ดีงามไง

ถ้าผู้นำที่ดีงาม ประเทศร่มเย็นเป็นสุข ถ้ามีความขัดแย้ง มีการแก่งแย่ง มีการชิงดีกัน เราจะทำอะไรกัน มีแต่หวาดระแวง มีแต่วิ่งหนี มีแต่คอยดูแลกัน หาความปลอดภัยๆ ความปลอดภัยในชีวิต

เวลาสัตว์ เวลาฆ่าสัตว์ๆ เวลาเราคิดของมนุษย์เองไง สัตว์มันเกิดมาเป็นอาหารของมนุษย์ สัตว์มันเกิดเป็นอาหารของมนุษย์ สัตว์มันว่าอย่างนั้นไหม สัตว์มันก็รักชีวิตของมันทั้งสิ้น เราเป็นคน คนเป็นอาหารของยักษ์ ยักษ์กินคนๆ ไง

เวลายักษ์กินคน เมื่อก่อนเราก็กลัวยักษ์ใช่ไหม แต่ในปัจจุบันนี้นะ เวลาไอ้กิเลสในหัวใจ ไอ้อวิชชา ไอ้ยักษ์ตัวใหญ่ที่มันกัดกินหัวใจเรา นั่นสำคัญกว่า

ถ้ามันสำคัญกว่า ดูสิ แม้แต่พระเจ้าตากสินฯ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ เวลากู้ชาติๆ กู้ชาติไว้เพื่อถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กู้ชาติไว้เพื่อพระพุทธศาสนา กู้ชาติไว้นะ

ชาติ ศาสนา

เวลาศาสนา วันสำคัญทางศาสนานะ วันวิสาขะ วันมาฆะ วันอาสาฬหะ วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเพราะมันมีกิจกรรมเกิดขึ้นในวันนั้น วันนั้นเขาทำคุณงามความดี เขาประพฤติปฏิบัติกัน แล้วเขามีความสุข

วันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ เกิด ตรัสรู้ ปรินิพพาน

วันอาสาฬหบูชา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสดงธรรม แสดงธรรมๆ ธรรมโอสถเพื่อชาวพุทธๆ ไง ธัมมจักฯ พระอัญญาโกณฑัญญะเวลาฟังเทศน์แล้วมีดวงตาเห็นธรรมๆ

วันมาฆบูชา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบวชให้เอหิภิกขุ แล้วองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นผู้สั่งสอนเอง เป็นพระอรหันต์ ๑,๒๕๐ องค์

วันสำคัญๆ ไง นี่วันสำคัญของชาติ ชาติในพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาสอนให้มีการทำคุณงามความดี

วันนี้เราระลึกถึง เรามาทำคุณงามความดี เราทำบุญกุศลเพื่อในหลวง แต่ทำบุญกุศลก็เพื่อหัวใจของเรา หัวใจที่พุทธะๆ นี่ไง

พุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานนะ เวลาทำความสงบของใจ ทำความสงบของใจเหมือนกัน ถ้าทำความสงบของใจ สัมมาสมาธิคือจิตมันสงบระงับ เห็นไหม เหมือนกับสังคมที่ร่มเย็นเป็นสุขไง

สังคมที่มีการขัดการแย้ง มีการแก่งแย่งชิงดี สิ่งนั้นมีแต่ความทุกข์ความยากไง หัวใจของเรา ความคิดลบ กิเลสตัณหาความทะยานอยาก ความน้อยเนื้อต่ำใจ ความทุกข์ความยาก

ธรรมโอสถๆ สัจธรรมๆ นะ มันเป็นเช่นนั้นเอง มันเป็นเช่นนั้นเอง มันเป็นเช่นนั้นเพราะว่าจริตนิสัย เพราะการกระทำ เพราะได้สร้างสมมา เธอย้ำคิดย้ำทำจนเป็นนิสัยของเธอ เธอย้ำคิดย้ำทำ ทำคุณงามความดีสิ่งใดมา มันก็จะฝังหัวใจมา ถ้าฝังหัวใจมามันก็คิดแต่เรื่องดีงาม คิดแต่เป็นคนที่ดีไง คนที่ดีเขารู้จักผิดชอบชั่วดี ถ้ารู้จักผิดชอบชั่วดีแล้ว นั่นน่ะเป็นคนที่มีสติสัมปชัญญะ คนที่แยกแยะได้ คัดแยกได้ว่าอะไรดีงามหรือไม่ดีงามไง

เวลาเราเกิดมาแล้วศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพระไตรปิฎก เป็นคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไง แล้วสิ่งที่ดีงามๆ เราจะคิดให้มันดีงามๆ แต่มันคิดไม่ได้ คิดไม่ได้ไง ความที่คิดไม่ได้ จริตนิสัย สิ่งที่มันผสมมาในหัวใจนั่นน่ะ แล้วมันขัดมันแย้ง มันมีความทุกข์ความยาก เหมือนกัน เหมือนกันนะ

เราพยายามทำความสงบของใจเข้ามาเพื่อหาพุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานไง

แต่ในผลของวัฏฏะๆ เวลาเราเกิด เราเกิดในประเทศอันสมควร เราเกิดมา สิ่งที่ดีงามๆ วันนี้วันชาติ ท่านสร้างคุณงามความดีไว้มาก สร้างคุณงามความดีไว้มากจนโลกต้องยอมรับน่ะ วันดินแห่งโลกก็เพราะอะไร เพราะว่าการวิจัย การกระทำของท่าน ดินที่มันเสียไปแล้ว ดินที่มันใช้ไม่ได้ ฟื้นฟูขึ้นมาได้ วันดินของโลก ใครเป็นคนทำ

สิ่งที่เศรษฐกิจพอเพียงๆ ต่อไปเขาก็จะยอมรับกัน เศรษฐกิจพอเพียงก็มาจากพระพุทธศาสนานี่ไง มีรู้จักมักน้อย รู้จักสันโดษ รู้จักการกระทำของตน รู้จักต่างๆ ถ้ามันรู้จักตัวมันเองแล้วนะ ความสุขไม่ต้องไปหาที่ไหน ความสุขมันอยู่ที่หัวใจนี้ไง มันมีความมักน้อย มีความสันโดษของมัน มันมีความสุขของมัน

เราเกิดมาเราปรารถนาความสุข เกลียดความทุกข์ไง แล้วเราว่าสิ่งที่เราแสวงหานั้นจะเป็นความสุขๆ ไง สิ่งที่แสวงหาความสุขมันขับเคลื่อนไปโดยกิเลสตัณหาความทะยานอยากไง มันก็ไปเอาฟืนเอาไฟมาเผาลนหัวใจของเรา เห็นไหม

แต่ถ้ามันมีบุญมีกุศล เวลามันคิดมักน้อยสันโดษของมันนะ เราหามาได้มากน้อยแค่ไหน เรามีความประหยัดมัธยัสถ์นะ รู้จักเก็บไว้ใช้ตอนเฒ่าตอนแก่ตอนชรา มันมีความสุขไปตลอดชีวิตน่ะ นี่ไง ถ้ามันมีความสุข เศรษฐกิจพอเพียงๆ ไง แล้วฝนเทียม ฝนเทียมมันไปหมดนะ

เราจะบอกว่า มันไม่ใช่เพราะเราโง่เง่าเต่าตุ่น ร่ำลือ ฟังข่าวลือแล้วเชื่อตามๆ กันไป คนนะ กว่าจะเป็นผู้นำได้นะ แล้วคนที่เป็นผู้นำแล้วมีสติปัญญาขึ้นมา สร้างผลงานไว้นะ สังคม สังคมเขายอมรับ กว่าที่เขาจะยอมรับได้

นี่ไง พระโพธิสัตว์ๆ พระโพธิสัตว์ทำคุณงามความดี ทำคุณงามความดีแต่ละภพแต่ละชาติ แล้วหัวใจมั่นคงนะ ใครจะเสียด ใครจะสี ใครจะทิ่ม ใครจะตำนะ ยิ้ม เรื่องของเขา เพราะหัวใจมั่นคงไง

แต่ถ้าเป็นเราไง ทุกคนบ่นหมดน่ะ ทำดีไมได้ดี ทำดีไม่ได้ดี หยิบอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน อยากได้รางวัล อยากได้สายสะพาย ท่านก็เลยทำสายสะพายไว้ให้ไง ใครทำความดีต้องได้สายสะพาย ทุกคนทำคุณงามความดี แล้วทำคุณงามความดีต้องมีเครื่องชักนำ แต่ของท่าน ใครให้สายสะพายล่ะ

เวลาท่านจะให้สมณศักดิ์ หลวงตาท่านพูดประจำนะ แต่เดิมหลวงตาท่านได้สมณศักดิ์แล้วตั้งแต่ท่านอาจารย์วันเครื่องบินตก เขาก็เอาตำแหน่งนั้นน่ะไปให้หลวงตา หลวงตาท่านเอาไปคืนนะ เอาไปคืนสมเด็จสังฆราชวาสน์ แล้วท่านพูด ท่านเล่าให้ฟังไง

สิ่งนี้สมณศักดิ์ๆ มันเป็นเครื่องเชิดชูคนที่ทำคุณงามความดีมีคุณธรรม ฉะนั้น เอาไปให้คนที่เขาต้องการ เขาอยากได้ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้เขาทำคุณงามความดี แต่ของกระผมไม่ต้อง ผมทำทั้งชีวิต มอบชีวิตให้กับศาสนา

ท่านพูดอย่างนั้นนะ เวลาท่านได้สมณศักดิ์ครั้งแรกท่านเอาไปคืน แต่พอท่านทำคุณงามความดีไว้มากมายมหาศาล ในหลวงท่านพยายามจะขอร้องไง ขอร้องว่าจะถวายสมณศักดิ์ท่านอีก ตอนท่านทำโครงการช่วยชาติฯ

ท่านบอกว่า ในหลวงท่านพูดว่า สิ่งที่ทำคุณงามความดีๆ สิ่งที่สมณศักดิ์มันไม่มีใครให้ได้ ยกเว้นแต่ราชา กษัตริย์เท่านั้น เป็นบุญกุศลของฉันคนเดียว ไม่มีใครทำได้ๆ ขอให้ท่านรับเพื่อเป็นบุญกุศลของท่าน หลวงตาท่านถึงรับสมณศักดิ์อันนั้นไง

ธรรมดาสมณศักดิ์ท่านไม่รับ ทำความดีทิ้งเหว ทำความดีทิ้งเหว เราไม่ต้องการสิ่งตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ต้องการความตอบแทนใดๆ เลย ทำดีเพื่อความดี มันจะดีจริงในหัวใจไง คนที่เขามีความดีในหัวใจเขาเป็นอย่างนั้นไง

นี่ไง ที่บอกว่าท่านเป็นสิทธิของท่าน ท่านถึงทำสายสะพาย ไอ้เราก็ต้องได้รับสายสะพาย แล้วจะทำคุณงามความดี แต่ของท่านไม่ต้อง ท่านเป็นคนให้ด้วย ท่านเป็นผู้นำด้วย ท่านทำประโยชน์กับโลกด้วย แล้วชักนำสังคมให้ทำคุณงามความดีด้วย

แต่ไอ้พวกปากหอยปากปูมันก็ทิ่มมันก็ตำไง มันทิ่มตำ มันจะเอาแบบมันคิดไง เป็นวิทยาศาสตร์ หนึ่งบวกหนึ่งเป็นสอง เป็นวิทยาศาสตร์หมด

แต่ไม่ กรรมดี กรรมชั่วนะ เวลาฆ่าสัตว์ เวลาเราทำผิดพลาดไป การฆ่าสัตว์ๆ ปาณาติปาตาฯ เป็นอาบัติปาราชิกนะ เวลาฆราวาสก็ศีล ๕

ถ้ายุคโบราณของเรา วัวควายของชาวชนบทมันเป็นแรงงานที่ช่วยเรามาทั้งชีวิตน่ะ เขาไม่ฆ่า เขาเลี้ยงมันจนตาย ตายเสร็จแล้วเขายังทำศพ เก็บศพมันไว้ เก็บร่างมันไว้ ไม่กิน ไม่ทำอะไรทั้งสิ้น เห็นไหม แม้แต่สัตว์

เวลาปาณาติปาตาฯ ทำลายสัตว์ เป็นศีล ๕ ขาดศีล ๕ ขาดศีล ๕ ไง แต่เวลาสัตว์ใหญ่ สัตว์มีคุณ ช้างอย่างนี้ มันมีคุณกับชาติ สัตว์มีคุณ สัตว์เหมือนกัน ชีวิตหนึ่งเหมือนกัน ฆ่าแล้วมันก็ปาณาติปาตาฯ เหมือนกัน แต่บาปกรรมไม่เหมือนกันไง

สัตว์ที่มีคุณ มันเคยช่วยเหลือเรา มันเคยดูแลเรา มันทำให้เรามีอาหาร มีทุกอย่าง แล้วเวลามันพลัดพรากจากไป เสียใจไหม สิ่งนี้มันจะเท่ากันได้อย่างไร มันเท่ากันไม่ได้หรอก

นี่วิทยาศาสตร์ไง หนึ่งบวกหนึ่งเป็นสอง ต้องเสมอภาค

นิ้วยังไม่เสมอภาคเลย นิ้วคนเกิดมานิ้วไม่เท่ากันหรอก คนเกิดมาจริตนิสัยไม่เหมือนกัน ให้คนละหนึ่งบาทๆๆ เท่ากัน คนหนึ่งหนึ่งบาทมีค่ามาก คนหนึ่งหนึ่งบาท เอ็งดูถูกกูหรือ ให้บาทเดียว

หนึ่งบาทๆ ให้ทุกคนคนละหนึ่งบาท เสมอภาคไหม ประชาธิปไตยหนึ่งเสียงๆ จริงหรือ เสียงเล็ก เสียงใหญ่ ยึดทีหนึ่งสามร้อยเสียง นี่กระแสโลกไง วิทยาศาสตร์ไง

เวลาคนทิ่มคนตำมันคิดแบบนี้ มันคิดแบบว่าเป็นวิทยาศาสตร์ๆ แต่มันไม่ได้คิดหรอกว่าคนที่เขามีบุญกุศลเขาได้สร้างสมมาแค่ไหน สิ่งที่สร้างสมมา คนร่ำคนรวยอยากมีบุตร อยากมีคนสืบสกุล มีได้ยากๆ ไอ้คนจนๆ เป็นแถบเลย เวลาปลามันไข่ทีหนึ่งเป็นแสนๆ ตัวเลย นี่เวลาสัตว์ ปลา นี่ไง มันจะเท่ากันตรงไหน แล้วเวลามันมา มันมาจากไหน

นมาจากนั่น มันมาจากว่า ที่เราทำบุญกุศลกันนี่ไง เพราะเราเชื่อในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ไง แล้ววันนี้ด้วยระลึกถึงท่าน ด้วยระลึกถึงคุณงามความดี ด้วยระลึกถึงว่าท่านคุ้มครองดูแล นี่ระลึกถึง สิ่งที่ทำคุณงามความดีถึงกันๆ ไง

เรามีบุญมีกุศล เราเชื่อในพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาเวลาสอน บุพเพนิวาสานุสติญาณ เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ ก่อนที่จะมาเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ พระเวสสันดรทำไปมันมากมายมหาศาล แล้วมีประเพณีแห่พระเวสๆ

ไอ้นั่นมันเป็นที่มาใช่ไหม คำว่า “ที่มา” เวลาคนเกิดๆ คนเกิดมาแล้ว อย่างเช่นเราเกิดมาแล้ว เราเกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา เราเกิดในประเทศอันสมควรนะ เราเกิดในประเทศมีราชาที่คุ้มครองดูแลเรานะ มันเป็นบุญเป็นกุศลของเราแล้วแหละ ไอ้บุญกุศลมันตีเป็นราคาไม่ได้

คนเรามันต้องให้ไปอยู่เมืองนอก ให้ไปอยู่เขมร ให้เขมรแดงมันฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างนี้ ให้ไปอยู่ที่ไหน เวลาเขาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เชื้อชาติ คนละสัญชาติ ฆ่าๆๆ

พระพุทธศาสนาไม่มี พระพุทธศาสนานะ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร สิ่งมีชีวิตทุกอย่าง สิ่งมีชีวิตนะ สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตมันรักชีวิตมันทั้งสิ้นน่ะ แต่เวลาถึงคราวถึงวาระของมันไป สิ่งที่มีชีวิต แล้วมีชีวิตแล้วเกิดในประเทศอันสมควรหรือไม่สมควร มีความเชื่ออย่างใด นับถือศาสนาใด เหมือนการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ

การเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ เกิดในภพใดชาติใด อยู่อย่างใด กินอย่างใด ใช้อาหารอย่างใด เกิดเป็นมนุษย์ กวฬิงการาหาร อาหารที่เรากินกันอยู่นี่ ถ้าเป็นเทวดา อินทร์ พรหมมันเป็นวิญญาณาหาร ถ้าเป็นพรหมเป็นผัสสาหาร มันต้องมีอาหาร ไม่มีอาหารดำรงชีพอย่างไร

ชีวิตนี้คืออะไร ชีวิตนี้คือพลังงาน พลังงานคืออะไร พลังงานตั้งอยู่บนเวลา แล้วเวลามันหิวมันโหย เวลามันกระหาย มันจะสืบต่อชีวิตอย่างไร แล้วเราเกิดเป็นมนุษย์ขึ้นมาหนึ่งชาติ เวลามันตายไปแล้วมันไปไหน มันไปไหนมันก็อยู่ที่บุญที่กรรม อยู่ที่การกระทำนี่ไง พระพุทธศาสนาสอนอย่างนี้ไง

เราเกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา แล้วเกิดในประเทศอันสมควร วันสำคัญๆ เราก็ยังระลึกถึง การระลึกถึง กตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดี

เวลาในครอบครัวมีลูกมีหลานขึ้นมา อยากให้ลูกเป็นคนดี อยากให้ลูกเป็นคนดี ถ้าเรามีสติปัญญาเราก็สั่งสอน พ่อแม่ ความเป็นอยู่พ่อแม่เป็นตัวอย่างทั้งนั้นน่ะ เด็กมันจำทั้งสิ้น แล้วไปโรงเรียนอบรมสั่งสอน ทุกโรงเรียนก็อยากให้เป็นคนดีทั้งสิ้น แต่ในสังคมทุกสังคมมีทั้งคนดีและคนเลว

ไอ้คนเลวๆ ไอ้คนเห็นแก่ตัว ไอ้คนคิดว่ามันทำสิ่งใดแล้วไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น มันทำสิ่งใดแล้วมันคิดว่ามันสมความปรารถนานะ เวรกรรมทั้งนั้นน่ะ

ทำดีต้องได้ดี ทำชั่วต้องได้ชั่ว

ทำดีต้องได้ดีแน่นอน แน่นอน แต่ความดีๆ ความดีมันมีสูงขึ้น ละเอียดขึ้น ดีงามขึ้น ดีงาม อย่างหลวงตา ครูบาอาจารย์ของเราทำความดีทิ้งเหว ทำความดีทิ้งเหว เขาไม่ติดไง ไม่ติดในความดี ไม่ติดในการยกย่องสรรเสริญบูชา โลกธรรม ๘ มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ โมฆบุรุษตายเพราะลาภ

ไอ้คนที่ไปติดตรงนั้นน่ะคือโมฆะ โมฆะคือจิตใจว่างเปล่า ไม่มีสิ่งใดเป็นสมบัติของตน จึงจำเป็นจะต้องอาศัยคนเชิดชูบูชา แต่ถ้าเป็นความจริงๆ ขึ้นมาแล้ว โลกธรรม ๘ มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ ธรรมะเก่าแก่

เวลาครูบาอาจารย์ของเราท่านทำความดีเพื่อความดี แล้วความดีนะ ทำบุญกุศลแล้วสบายใจไหม เราทำคุณงามความดีแล้วปลอดโปร่งไหม อันนี้สำคัญ บุญกุศลมันเป็นอย่างนั้น

ไม่ใช่บุญกุศล มันอยู่ที่วาสนา ไอ้ที่ว่าคนจะร่ำจะรวย จะมั่งมีศรีสุข อยู่ที่วาสนาด้วย คนเราเกิดมานะ มีบุญกุศลด้วย มีอำนาจวาสนาด้วย ถ้าอำนาจวาสนา จังหวะมันให้ผลของมัน มันก็เป็นวาระไง นี่เป็นวาระ เห็นไหม

สิ่งที่เป็นวาระ กรรมจำแนกสัตว์ให้เกิดต่างๆ กัน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เชื่อกรรม กมฺมพนฺธุ กมฺมปฏิสรโณ กรรมเป็นเผ่าพันธุ์ กรรมเป็นแดนเกิด กรรมเป็นที่พึ่งอาศัย

อาศัยอะไร

ทำงานก็ได้ตังค์ ทำผิดก็ติดคุก นี่ไง มันให้ที่พึ่งที่อาศัย แล้วเราทำของเรามาดีแล้ว เราทำของเราดีแล้ว แล้วเราพึ่งอาศัยอะไร

ในมุมมองของเรา เห็นไหม สุขอื่นใดเท่ากับจิตสงบไม่มี คนไปเที่ยวรอบโลกเลย ทำงานเก็บเงินทั้งชาติเลย เกษียณแล้วจะไปรอบโลก พอไปรอบโลกกลับมาแล้วได้อะไร เอ็งก็ตายอยู่ในนี้ไง

แต่ความสุขหาได้ที่กลางหัวใจนี้

พ่อแม่เห็นลูกประสบความสำเร็จ เห็นลูกมีความสุข พ่อแม่มีความสุข เห็นไหม ความสุขเกิดจากหัวใจนี้ เกิดจากในครอบครัวเราอบอุ่น ครอบครัวเราร่มเย็นเป็นสุข นี่ครอบครัวนะ

แล้วพอเข้ามาสู่ใจของตน สุขอื่นใดเท่ากับจิตสงบไม่มี จิตสงบ ในครอบครัว ในสังคมมันสงบร่มเย็น เราก็สงบระงับ เราไม่เดือดร้อน แต่ความคิดในใจมันก็วิตกกังวลนะ ตายแล้วจะไปไหน เกิดมาทำไม มันทุกข์มันยากของมัน เห็นไหม

ศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ศึกษาแล้วนั่นเป็นขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ศึกษานี่ทรงจำธรรมวินัย ศึกษาไว้ให้ประพฤติปฏิบัติ

เวลาเราจะประพฤติปฏิบัติ หายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธ ถ้าจิตมันสงบระงับเข้ามา มันเป็นความมหัศจรรย์ๆ ของที่ค้นหาได้ อยู่ที่กลางหัวใจนี้ อยู่ในหัวอกนี้ เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์

สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ๗ อย่าง ๘ อย่างนะ จิตของคนที่มีอยู่ ๗,๐๐๐ กว่าล้านคนมันมหัศจรรย์ทั้งนั้นเลย แต่มันส่งออกหมดเลย มันไม่เคยเห็นมันเลย มันไม่รู้จักมันเลย มันเลยไม่รู้จักสมาธิไง

สมาธิคือจิตตั้งมั่น จิตที่สงบระงับเข้ามา

ดูสิ เราเกิดเป็นคน เราเป็นคนเหมือนกัน มีกายกับใจๆ มีความรู้สึกนึกคิดเหมือนกัน แต่คนที่ทำความสงบ จิตเขาไม่คิด จิตที่เป็นอิสระ จิตในร่างกายเรานี่แหละ เวลามันสงบเข้ามามันจะเกิดความมหัศจรรย์ๆ โคตรมหัศจรรย์เลย เพราะมันจะ เอ๊อะ! แล้วจะฝังใจไปจนตาย

ใครทำความสงบได้นะ แล้วพยายามทำบ่อยๆ ครั้งเข้า เวลาคนใกล้จะตายเขาจะเข้ามาตรงนี้

คนโบราณบอกว่าคนตายให้คิดถึงพระ ให้คิดถึงพุทโธๆ ไอ้นั่นมันเป็นสัญลักษณ์ แต่ถ้าคนเข้ามาถึงความสงบ นี่พุทโธจริง คิดถึงพระจริง แล้วได้พระจริง

คนโบราณบอก คนใกล้ตายให้พุทโธไว้ ให้นึกถึงพระไว้

เอ็งนึกถึงพระได้ เอ็งนึกแต่เรื่องสัญลักษณ์ เรื่องภาพ เรื่องการศึกษา แต่ถ้ามันเป็นจริงนะ มันเป็นจริงในใจของมัน เห็นไหม พุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน มันถึงมหัศจรรย์ไง สุขอื่นใดเท่ากับจิตสงบไม่มี ไม่มี แล้วจิตมันอยู่ที่กลางหัวใจเรานี่

แต่ตอนนี้มันทุกข์ ทุกข์อะไรเท่ากับกิเลสมันป้อนไม่มี ทุกข์อะไรเท่ากับกิเลสมันขุดคุ้ยใจเราไม่มี แล้วตอนนี้พุทธะ จิตของเรามี แต่โดนกิเลสพญามาร ตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา ความอยากได้อยากดีอยากเด่น ความที่มันไม่เข้าใจว่าเป็นของดีก็พยายามผลักไสมันไป แล้วถ้าตัณหามันอยู่ในตัวมันเองมันก็เผากรุ่นในตัวของมันเอง เพราะมันมีเชื้อไข เห็นไหม

แต่ถ้าเป็นความจริงๆ เวลาทำความสงบของใจมา มันวางตรงนี้ได้ชั่วคราว เพราะมันไม่มีอะไรยุอะไรแหย่ อะไรคอยไปทำให้มันเคลื่อนไหว ถ้าทำให้มันเคลื่อนไหว มันก็เป็นอิสระ พอเป็นอิสระ ถ้ามีสติสัมปชัญญะมันก็รู้ อ๋อ! สัมมาสมาธิเป็นอย่างนี้ ถ้ามันไม่มีสติสัมปชัญญะ มันเป็นสัญลักษณ์ มันว่างๆ

เขาสอนให้ว่างๆ ก็เลยคิดว่างๆ

ความคิดนั้นมันก็เป็นความคิดว่าง ไม่ใช่ตัวมันว่าง พยายามทำความคิดให้ว่าง มันก็เลยไม่เป็นจริง มันก็เลยไม่เคยเจอความมหัศจรรย์ มันก็ไม่เคยเจอความฝังใจ มันไม่เคยเจอความจริง มันพูดถึงความจริงไม่เป็น มันไม่มีผลของความจริงไง มันเลยว่างๆ ว่างๆ ว่างๆ แล้วก็เป็นเหยื่อเขา ให้เขาสอยสะพายแล้วก็ลากกันไป ว่างๆ อย่างนั้นหรือ

แต่ถ้าว่างๆ ความจริงมันมั่นคงในตัวมันเอง นี่พุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน สุขอื่นใดเท่ากับจิตสงบไม่มี แล้วจิตเราในหัวใจนี้ไม่มีใครค้นเจอ ปฏิบัติเกือบเป็นเกือบตาย ทำสมาธิก็ยังไม่ได้

พอทำสมาธิได้นะ เวลาเขาไปถามปัญหาหลวงตาไง ไม่ต้องบอก ไม่ต้องบอก รู้หมด

ถ้ามันทำสมาธิได้ คนอื่นหลอกไม่ได้แล้ว เพราะอะไร เพราะมันพูดไม่เหมือนเรา มันเห็นไม่เหมือนเรา มันพูดไปตามกระแสโลกธรรม ๘ มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ มันเป็นกระแสสังคม เป็นอุปาทานหมู่ เป็นอุปาทานๆ ไม่เป็นความจริง

ถ้าเป็นความจริงเป็นเอกเทศ มันเป็นเอกเทศเพราะอะไร เพราะจิตของเรา การกระทำของเรา แล้วใครจะเหมือนเราไม่ได้ ลายนิ้วมือของคนเหมือนกันไม่ได้ ลายพิมพ์จิต ลายพิมพ์กรรมยิ่งกว่านั้น ไม่มีเหมือนกันหรอก ไม่มี

ฉะนั้น สัมมาสมาธิ ความว่างถึงเป็นอจินไตย ๔ ไง อจินไตย ๔ คือจิตว่างนี้ด้วย อจินไตยๆ อจินไตย พุทธวิสัย กรรม โลก ฌาน อจินไตยเพราะมันยิ่งใหญ่ไง แล้วยิ่งใหญ่ที่ไหนล่ะ

ยิ่งใหญ่มันยิ่งใหญ่เป็นกระแสใช่ไหม แต่พอมันเข้าถึงพุทธะเรา ยิ่งใหญ่กลางหัวใจ ยิ่งใหญ่อยู่ในกูนี้ กูรู้ กูเข้าใจ แต่ถ้าไม่รู้ก็เป็นเหยื่อต่อไป

วันนี้วันสำคัญของชาติ แล้วก็เป็นวันสำคัญของความเป็นมนุษย์เราด้วย เราก็มีหัวใจเหมือนกัน เราก็มีพุทธะเหมือนกัน เราเป็นชาวพุทธ เราระลึกพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นแก้วสารพัดนึก รัตนตรัยของเรา แล้วพุทธะกลางหัวอกของเราด้วย

วันนี้วันชาติ ชาติไทย แล้วชาติของเรา ชาติ ภพชาติ ชาติในใจดวงนี้ รักษาดูแลเพื่อประโยชน์กับใจดวงนี้ เอวัง